วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ธุรกิจกับสื่อมัลติมีเดีย

ธุรกิจการพิมพ์
สื่อสิ่งพิมพ์ (print media) หมายถึง สื่อที่ผลิตขึ้นจากระบวนการทางการพิมพ์ทุกรูปแบบที่บรรจุเนื้อหาสาระทั้งทางด้านความรู้ ความบันเทิง โดยจัดพิมพ์ลงบนกระดาษหรือวัสดุอื่นๆเช่น ผืนผ้าหรือแผ่นพลาสติก เป็นต้น

สื่อสิ่งพิมพ์แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
1.หนังสือพิมพ์ (newspapers)
2.นิตยสารและวารสาร (magazine and journals)
3.หนังสือเล่ม (books)
4.สิ่งพิมพ์เฉพาะกิจต่างๆ (special purpose printed materials)

หลักการเขียนในสื่อสิ่งพิมพ์
หลักการเขียนโดยทั่วไปอาจใช้หลักการสำคัญคือ
1.เขียนให้ง่าย ชัดเจนและสรุปใจความสำคัญ
2.รู้ลักษณะของผู้อ่าน พยายามคิดถึงภาพของผู้อ่านก่อนที่จะเขียน
3.เขียนอย่างมีการวางแผนโดยกำหนดร่างหัวข้อ (outline) และเขียนตามที่ได้ร่างไว้
4.เขียนเป็นแบบร่างก่อน (draft)โดยพยายามบรรจุความคิดและข้อมูลลงไปก่อนแล้วจึงมาปรับปรุงแก้ไขตกแต่งภายหลัง
5.เลือกใช้คำที่เหมาะสมอย่างระมัดระวัง ใช้คำง่ายๆ คำที่คุ้นเคยกัน และคำที่มีลักษณะเฉพาะตัว
6.ใช้การกำหนดแบบและขนาดตัวอักษร ตัวหนา และช่องว่างเพื่อเน้นคำและข้อความที่สำคัญ
7.ควรใช้ภาพประกอบคำอธิบายเพื่อช่วยอธิบายเนื้อหาให้เข้าใจง่ายขึ้น และดึงดูดความสนใจของผู้อ่านด้วย


ธุรกิจการพิมพ์ นับเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สัมพันธ์กับเทคโนโลยีมัลติมีเดีย อันจะส่งผลให้หนังสือ สิ่งพิมพ์ต่างๆ มีความน่าสนใจมากขึ้น และปัจจุบันก็มี E-Magazine หรือ E-Book ออกมาอย่างแพร่หลาย
e-Magazine หรือ Magazine Online ท่านจะแปลว่า วารสารหรือนิตยสารอิเล็กทรอนิกส์ ก็ถูกทั้งนั้น โดยจะออกรายสัปดาห์ รายปักษ์ หรือรายเดือน ก็แล้วแต่ผู้จัดทำ โดยปกติทุกท่านก็รู้จักวารสาร นิตยสารที่วางขายตามแผงหนังสือทั่วไปอยู่แล้ว ราคาจำหน่ายก็แล้วแต่ความหนาของหนังสือ พิมพ์สีเดียวหรือ 4 สี กระดาษอย่างดีหนาบาง ราคาก็จะแตกต่างกันไป ต้นทุนส่วนใหญ่จะอยู่ที่โรงพิมพ์มากกว่า แต่วารสารอิเล็กทรอนิกส์ (e-Magazin) คนกลางคือโรงพิมพ์จะหายไป ต้นทุนที่เป็นกระดาษจะไม่มี จำนวนหน้าก็ไม่ต้องจำกัด แล้วแต่จะมีผู้ส่งบทความมากน้อยแค่ไหน วิธีการเข้ามาอ่านวารสารอิเล็กทรอนิกส์ ก็ไม่มีข้อจำกัด คือ ใครก็สามารถเข้ามาอ่านได้ (anyone) อ่านจากที่ไหนก็ได้จากทุก ๆ แห่งทั่วโลกที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (anywhere) สามารถอ่านเวลาไหนก็ได้ (anytime) หรือเลือกอ่านในสิ่งที่สนใจก็ได้ (anything) และหากเมื่อไรต้องการเอกสารเป็นรูปเล่ม เพื่อเก็บไว้ในตู้หนังสือหรือส่งให้เพื่อนฝูง คนรู้จัก ก็สั่งพิมพ์ออกทางเครื่องพิมพ์ (Printer) ได้ทันที
E-book ได้มีผู้ให้ความหมายของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ไว้หลายความหมาย ได้แก่
เป็นคำเฉพาะที่ใช้สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นสิ่งพิมพ์ด้านอิเล็กทรอนิกส์และมัลติมีเดีย โดย เฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ที่เป็นแผ่นจานข้อมูลเสียง (Optical disc) เช่น ซีดีรอม และซีดีไอ และเป็น ซอฟต์แวร์ (ในรูปของดิสก์ขนาด 8 ซม.)
เป็นคำที่ใช้ในการอธิบายตัวอักษรที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับหนังสือ อยู่ในรูปแบบดิจิตัล โดยแสดงให้เห็นบนจอคอมพิวเตอร์ เป็นหนังสือถูกนำมาจัดพิมพ์ในรูปแบบดิจิตอล ไม่บังคับการพิมพ์ และการเข้าเล่ม แผ่นซีดีรอมสามารถจัดเก็บข้อมูลได้จำนวนมากในรูปแบบของตัวอักษร ทั้งลักษณะภาพ ดิจิตอล ภาพอนิเมชั่น วิดีโอ ภาพเลื่อนไหวต่อเนื่อง คำพูด เสียงดนตรี และเสียงอื่นๆ ที่ประกอบตัว อักษรเหล่านั้น มูลค่าของการจำลองลงบนแผ่นจานข้อมูลเสียง (Optical disc) เพียงแค่เป็นเศษส่วน ของการจัดพิมพ์และการห่อหนังสือในขณะที่มีความจำเป็นที่จะต้องมีฮาร์ดแวร์ในการอ่านหนังสือ อิเล็กทรอนิกส์ และขณะนี้มีราคาหลายระดับ ลักษณะของซอฟต์แวร์ที่เพิ่มเป็นแบบไฮเปอร์มีเดีย (Hypermedia) สามารถแสดงผลของการค้นหาตัวอักษรได้ เชื่อมต่อกับไฮเปอร์เท็กซ์ มีคำแนะนำที่ สามารถอธิบายศัพท์เป็นระบบออนไลน์ และอาจมีหมายเหตุตรงขอบ เป็นต้น
ลักษณะและรูปแบบของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
หัวใจของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ คือ "แผ่นจานข้อมูลแสง" หรือ ซีดีรอม แผ่นดิสก์ดังกล่าวจะเก็บ ข้อมูลในรูปแบบเดียวกับแผ่นซีดีที่ใช้บันทึกเพลง คือแต่ละจุดที่บันทึกอยู่บนแผ่นดิสก์จะใช้แทนจำนวน ข้อมูล และจุดเหล่านี้สามารถอ่านค่าด้วยแสงเลเซอร์ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ชนิดพกพาติดตัวได้เปิด โฉมเมื่อไม่นานนี้ด้วยสนนราคา 300 ปอนด์ ประกอบด้วยตัวเครื่องขนาดกระทัดรัดเหมาะมือ มีคีย์บอร์ด ขนาดเล็กเท่าหน้าปัดนาฬิกา จอมีขนาด 6 ตารางเซ็นติเมตร และมีช่องสำหรับใส่แผ่นดิสก์ 1 ช่อง ความสามารถที่เป็นจุดเด่นของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ คือความสามารถในการใช้งานข้อมูลที่บรรจุอยู่ใน แผ่นดิสก์แบบเดียวกับคอมพิวเตอร์ คือสามารถใช้งานในรูปของตัวอักษรและกราฟิก หรือที่เรียกว่าแบบ ไฮเปอร์เท็กซ์ แต่ก็มีจุดอ่อนในตัวเองเหมือนกัน เมื่อมีข้อมูลมากจึงทำให้มีขนาดใหญ่และหนักกว่า หนังสือที่เป็นกระดาษ และเปลืองไฟมาก ดังนั้นจึงต้องมีการออกแบบให้มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และ ใช้พลังงานน้อย จอมีขนาดเล็กกว่าจอโทรทัศน์ทั่วไปจึงทำให้เกิดอาการเคืองตาและเหนื่อยเป็นอย่างมาก หากต้องอ่านนาน ๆ

ไม่มีความคิดเห็น: